การดูแลทุเรียนในช่วงทำใบและกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและต้นให้แข็งแรงนั้นมีการใช้สาร เคมีและปุ๋ยบางประเภทที่สามารถช่วยได้อย่างมาก ได้แก่ 1. ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16: ปุ๋ยสูตรนี้มีไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และ โพแทสเซียม (K) ในสัดส่วนที่สมดุลกัน ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและราก 2. ปุ๋ยสูตร 20-10-10 หรือ 21-0-0: ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงจะช่วยกระตุ้นการแตกยอดและการ เจริญเติบโตของใบใหม่ 3. ฮอร์โมนพืช: เช่น ออกซิน (Auxin) และจิบเบอเรลลิน (Gibberellin) สามารถช่วย กระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและส่วนต่าง ๆ ของพืช 4. สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช: การใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลงหรือเชื้อรา เช่น คาร์บาริล (Carbaryl) หรือ แมนโคเซ็บ (Mancozeb) จะช่วยให้ต้นทุเรียนปลอดจากโรค และแมลงรบกวน การใช้สารเคมีและปุ๋ยควรทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามวิธีการใช้อย่างถูก ต้องเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการเจริญเติบโตของต้นทุเรียน

Answer ทุเรียนหลังน้ำท่วมมีอาการยืนต้น ใบเหลือง ไม่เจริญเติบโต สาเหตุ หลักเกิดจากรากขาด อากาศหายใจ วิธีแก้ไขคือ ทำความสะอาด โคน ต้น ตัดหญ้า เปิดโคนให้โล่ง ระบายน้ำ ออก อย่าใส่ปุ๋ยเพราะจะทำให้ ดินเปรี้ยวและ เค็มยิ่งขึ้น ใช้สารปรับปรุงดิน เช่น โดโลไมต์ ปูนขาว ยิปซั่ม หรือฮิวมิคเพื่อเพิ่มออกซิเจน ในดิน เมื่อรากเริ่มหายใจได้จึง ค่อยใส่ปุ๋ย ให้ สังเกตรากผ่อย ถ้าเป็นสีแดงยังไม่น่ากลัว แต่ถ้าเริ่ม เป็นสีแดงอมดำแสดงว่าเป็นเชื้อรา ต้องฉีดพ่นด้วยเมทาแลกซิลหรือ อีทีฟอส

เป็นโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อใบ และผลของต้นทุเรียนได้ อาการที่พบได้บ่อยคือการเกิดจุดสีน้ำตาล หรือสนิมบนใบ และเมื่อโรคแผ่ขยายไปเรื่อย ๆ ใบจะเริ่มเหลืองและ ร่วงหล่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของ ต้นทุเรียนอย่างมาก การป้องกันและควบคุมเชื้อราสนิมสามารถทำได้โดยการใช้สารเคมี ที่เหมาะสม หรือวิธีการจัดการทางเกษตร เช่น การตัดแต่งกิ่งและใบ ที่ติดเชื้อออกไปเผาทำลาย การรักษาความสะอาดในสวนทุเรียน และ การปรับปรุงระบบการระบายน้ำให้ดีเพื่อลดความชื้นที่เป็นปัจจัย เสี่ยงในการเกิดเชื้อรา

ทุเรียนเป็นราดำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสวนทุเรียน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ราดำที่เกิดขึ้นบนทุเรียนสามารถลดคุณภาพและมูลค่าของผลได้ ราดำมักจะปรากฏบนผิวของทุเรียนเป็นจุดสีดำหรือเป็นแผ่นสีดำที่กระจายทั่วผิว การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการจัดการสวนให้มีการระบายอากาศที่ดี ลดความชื้นในบริเวณสวน และใช้สารป้องกันและกำจัดเชื้อรา นอกจากนี้ การดูแลทุเรียนให้แข็งแรงด้วยการให้ปุ๋ยและน้ำอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคและราดำได้อีกด้วย

วิธีแก้ !! แนะนำให้ใช้. คอปเปอร์. กับ. แมนโคแซบ

เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนเป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของต้นทุเรียน พบได้ทั่วไปในพื้นที่ปลูกทุเรียนทั่วประเทศไทย แมลงชนิดนี้มีลักษณะตัวเล็ก มีสีขาวหรือสีเขียวอ่อน และมีปีกใส เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนมักจะเกาะอยู่บนใบอ่อนและยอดอ่อนของต้นทุเรียน ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ใบหงิกงอ และยอดหยุดการเจริญเติบโต นอกจากนี้ เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนยังสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคไวรัสต่างๆ มาสู่พืชทุเรียนอีกด้วย การควบคุมเพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนสามารถทำได้โดยการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง  เพื่อลดการแพร่ระบาดของเพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

เน่าคอดินเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อซากพืชและสัตว์ที่ตายแล้วถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและขาดออกซิเจน กระบวนการนี้ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและสารประกอบอินทรีย์ที่เป็นพิษ อย่างเช่นมีเทนและแอมโมเนีย เน่าคอดินมักพบในพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น หนองน้ำและบึง ซึ่งมีการสะสมซากพืชและสัตว์เป็นจำนวนมาก การเข้าใจและการจัดการกับเน่าคอดินเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ประโยชน์จากกระบวนการนี้ในการผลิตพลังงานชีวมวลและปุ๋ยอินทรีย์

การปรับสภาพดินเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเตรียมดินให้เหมาะสมสำหรับการเกษตรหรือการปลูกพืชต่างๆ กระบวนการนี้มุ่งเน้นในการปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพ เคมี และชีวภาพของดิน เพื่อให้อยู่ในสภาพที่พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี การปรับสภาพดินสามารถทำได้โดยการเติมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี การปรับค่า pH ของดิน การเพิ่มสารอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก หรือการใช้พืชคลุมดินเพื่อป้องกันการชะล้างและการกัดเซาะ นอกจากนี้ การพิจารณาเลือกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดินก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากที่สุด 

น้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลูกทุเรียน เนื่องจากทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตและการออกดอกที่มีคุณภาพ การขาดน้ำจะส่งผลให้ต้นทุเรียนเติบโตช้า ผลผลิตลดลง และอาจทำให้ใบไหม้หรือร่วงได้ ในขณะเดียวกันการให้น้ำมากเกินไปก็อาจทำให้รากเน่าและส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นทุเรียนได้เช่นกัน ดังนั้น การจัดการน้ำที่ถูกต้องและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การใช้ระบบชลประทานที่ดีหรือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการให้น้ำ เพื่อให้ทุเรียนได้รับน้ำในปริมาณที่พอดีและสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่